พบพระวิญญาณของผู้สูงศักดิ์
ร้องขอให้เดินทางต่อไป
ตำนานพระสุพรรณกัลยา ในย้อนรอยกรรมของหลวงปู่โง่น โสรโย (6)
- เราพักค้างอ้างแรมอยู่ที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ เป็นเวลาเจ็ดวัน เพราะต้องทำความเพียรทางจิต อย่างอุกฤษฏ์แบบเอาเป็นเอาตาย
- เพราะใจหนึ่งอยากไปแต่อีกใจหนึ่งไม่อยากไป ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอาอย่างไรดี แต่เราก็มีลางสังหรณ์
- ในเวลาลืมตาไม่อยากไป พอเวลาหลับตาก็จะไปให้ได้ เราต้องไปใช้กรรม ไปแก้กรรม ถ้าไม่ไปจะไม่รู้จักทางแก้ แน่นอนที่สุดคือต้องไป
- ในราตรีคืนวันที่ 29 เมษายน 2490 เราตั้งใจทำความเพียรทางจิตเพื่ออุทิศบุญกุศลไปให้คุณบิดามารดาผู้บังเกิดเกล้า เพราะพรุ่งนี้เช้าเป็นวันศุกร์ที่ 30 เมษายนเป็นวันที่เราได้อุบัติเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกคือวันเกิดของเรา
- รัตติกาลผ่านเข้าสองยามไปแล้วก็ปรากฏเห็นนิมิตในฝันว่า มีผู้สูงศักดิ์สองท่านแต่งตัวเป็นนักรบระดับสูงพร้อมด้วยบริวารจำนวนมากเข้ามาพบ ด้วยแสดงความนอบน้อมพร้อมด้วยเอ่ยปากว่า พวกกระผมโชคดีที่ได้มาพบท่าน
- เพราะ แต่กาลก่อนท่านเคยเป็นขุนอารักษ์ศักดิเสนา แต่นี้ท่านเป็นนักบวชแล้ว แต่ก่อนได้ช่วยอภิบาลดูแลพวกเราให้พ้นภัย
- และท่านต้องรีบไปช่วยพวกเราที่ตกยากอยู่ต่างแดน ที่เมืองหงสาวดีโน้น พวกเราจะจัดแจง ให้มีคนที่เป็นนายพรานป่านำพาท่านไปโดยสวัสดิภาพ
- ท่านไม่ต้องเป็นห่วง แล้วท่านทั้งสองก็ชี้มือให้ดูว่า ทางโน้นครับนายพรานป่าเขาจะนำท่านไปเอง ไปช่วยเหลือพวกเราที่ถูกจองจำ ตกยาก
- และรับรองว่าท่านคนเดียวเท่านั้น ที่จะช่วยได้เพราะเป็น บุพเพสันนิวาส เคยเป็นทาสรับใช้มาแล้วแต่ปางหลัง
- พอรุ่งสางขึ้นวันใหม่ เรามาทบทวนหวนจิต คิดถึงนิมิตฝันที่ผ่านมาเมื่อราตรีกาลคืนนั้นว่า ใครหนอที่แต่งตัวแบบจอมทัพกับบริวาร มาไหว้วานให้เราต้องเข้าไปทางตะวันตกแล้วก็ขึ้นเหนือ เพื่อช่วยคน
- อันท่านทั้งสองผู้สูงศักดิ์นั้นคือใครกันแน่ จะเป็นเทวดา ผี หรือคน หรือทวยเทพ เทวดา ผู้ที่เคยเป็นนักรบ แพ้เขาแล้วเป็นเชลย และเราก็ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน
- จึงกำหนดจิตคิดย้อนสู่อดีตกาล จึงพอจะรู้ว่าท่าน คือองค์มหาราชที่ได้กอบกู้เอาบ้านเมืองไว้ แต่เรายังไม่รู้ว่าเป็นใครอีกเช่นกัน
- เพราะความฝันก็คือฝันเอาจริงไม่ได้ จิตจะฝันก็เพราะจิตใต้สำนึกไม่สงบ แต่ในชั้นกามภพ ก็ควรจะให้มีแต่การนอนฝัน นี้เรานั่งฝันไปนี่นา แล้วจะเอาจริงอะไรเล่า
- แต่การนั่งฝันของเรา เราเคยเชื่อตนเอง ถึงร้อยเต็มร้อยมาแล้ว เพราะได้ศึกษาเรื่องตัวฝัน ตัวแฝงมาบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น