วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ตำนานพระสุพรรณกัลยา 12

"เกร็ดย้อนรอยประวัติศาสตร์ และ
พงศาวดารพระตำนานของพระสุพรรณกัลยา"


  • ดัง ผู้เขียนได้กล่าวไว้ในคำปรารภเบื้องต้นนั้นว่า อันการได้มาซึ่งพระประวัติ เรื่องราวอันเป็นตำนานที่เป็นทั้งแบบรูปธรรม และนามธรรมของพระตำนานพระสุพรรณกัลยานั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก 
  • เพราะในประวัติศาสตร์ และพงศาวดาร ก็กล่าวไว้เพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่เรื่องที่เป็นความจริงหรือใกล้ความจริงของวีรสตรีท่านนี้ จึงเกือบจะหายจากความรู้สึกนึกคิดความทรงจำของคนไทยไปแล้ว 
  • แต่มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เกิดจากความฝันอันเป็นอารมณ์ที่ธรรมชาติสร้างมา และบุญกรรมบาปเวรที่มีอยู่ก่อน เป็นผลสะท้อนย้อนมาให้ผู้เขียนไปตามความฝัน เพื่อไปแก้กรรมและสร้างกรรมต่ออีก 
  • จึงได้ใช้ความพยายามบุกป่าฝ่าดงมุ่งตรงต่อเมืองเมียนม่าด้วยเท้าเปล่า โดยมิได้อาศัยยานพาหนะใดๆทั้งนั้น
  • ด้น ดั้นเดินธุดงค์ไปอย่างเดียวดายแทบจะถึงปางตายเอาชีวิตไม่รอดและได้ไป เจอมรสุมของชีวิตทุกรูปแบบ ใช้เวลานานถึงสองปีกว่าๆ ในสถานที่ที่จะต้องการไป 
  • เพื่อศึกษาหาความจริงจากอารมณ์ฝัน เราไปแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แล้วเรื่องอะไรถึงต้องไปและก็ได้กล่าวตอบแล้วในตอนต้น 
  • อันยอดปรารถนาของเราก็เพื่ออยากสัมผัสทางจิตวิญญาณ เมื่อได้รับรู้ทางจิตวิญญาณแล้วก็ค้นคว้าให้จิตวิญญาณที่เป็นนามธรรมนั้นให้ เป็นรูปธรรมขึ้นมา 
  • คือพระฉายาลักษณ์จากกล้อง ถ่ายรูปออกมาจนได้ และก็ได้มีโอกาสศึกษาค้นคว้าทางตำนานจากตำรับตำราของเขาที่เขาเก็บเอาไว้ใน หอสมุด 
  • บังเอิญได้พบหนังสือเก่าๆเมื่อปี พ.ศ. 2229 ที่เขาไม่เอาใจใส่แล้ว มาศึกษาดู ก็ไปพบหนังสือซึ่งเป็นลายพระหัตถ์ของพระนางเองที่เขียนเอาไว้หลายตอน ผู้เขียนจึงได้ตัดทอนที่เป็นอักษรพม่าสมัยโบราณ เอามาลงไว้ดังต่อไปนี้
  • อักษรหนังสือนี้ เป็นอักษรโบราณนานมาแล้ว ซึ่งไม่ต่างกับอักษรไทยในสมัยอยุธยา ผู้เขียนจึงแปลออกมาได้ความว่า 
  • "ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของ พระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชายพร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราชกรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"
  • "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

  • เมื่อใช้ความพินิจพิจารณาดูด้วยเหตุผลและเนื้อเรื่องนี้แล้ว จะเห็นว่า ตัวพระนางเองเมื่ออายุได้ 14 ปี และน้องชายคนโตคือ เจ้าองค์ดำอายุ 12 ปี เจ้าองค์ขาวอายุ 10 ปี ก็ถูกกวาดต้อนไปด้วย 
  • เหตุที่ตัวพระนางจะไป เพราะน้องชายทั้งสองไม่ยอมไปถ้าพี่สาวไม่ไปด้วย ก็ผิดกับพระตำนานและประวัติศาสตร์ว่า พระนเรศวรมีอายุ 3 ปี ส่วนพระเอกาทศรถก็คงปีกว่าๆเท่านั้น และเจ้าบุเรงนองจะเอาไปทำไมเพราะเล็กเหลือเกิน เดินไม่ไหวแถมยังเป็นภาระในการเลี้ยงดูอีก และจะเอาน้ำนมที่ไหนให้กินเพราะสมัยนั้นไม่มีนมเทียม นมสำเร็จรูป ที่จะให้เด็กเล็กๆดื่มได้อย่างสมัยนี้ ฟังดูแล้วมันไกลจากความเป็นจริง แต่นี้พระองค์ดำมีพระชนมายุถึง 10 ปี เดินได้สบาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น