วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ตำนานพระสุพรรณกัลยา 11

เทวรูปพระอุมาทองคำ




  • ใน ปัจจุบัน ทางวัดมันเห็นแก่ได้ มันจะเอาลูกเดียวหรือมันเอาไปขายกินเสียแล้ว ใครจะไปรู้ แต่เราก็พอมีสักขีพยานอยู่คือพระมหาสำเนียงเท่านั้น ที่เป็นคนแบกไปถวายฝาก ไว้ และจะยังยืนยันว่าเป็นของฝากไว้เฉยๆ มิใช่ของท่านผู้รับฝากและของวัดแม้ แต่ประการใด 
  • เอาองค์ท่านมัดรัดติดตัวเรา เดินทางไปลงเรือที่ปากน้ำสาละวิน หันหลังใส่ทิศทักษิณผินหน้าขึ้นเหนือทวนกระแสน้ำ 
  • จากแขวงเมืองชาวบุน (Schawnon) (หรือชาวนัน ซึ่งเป็นเมืองอังวะแต่ก่อนมา) จากชาวบุนถึงทาดอง (Thadon) ใช้เวลา 10 วัน 
  • เพราะต้องแวะตามฝั่งแจกทานไปด้วย ส่วนมากเป็นผ้าห่มกันหนาว เสื้อผ้า และยารักษาโรคดังกล่าวมา จากทาดองถึงลอยกอ (Loikon) หรือบอละเก (Bolake) 
  • อันเมืองบอละเกนี้เอง เป็นที่สวรรคตของพระเจ้ามหินตราธิราช ผู้ครองเมืองอยุธยา แต่ถูกพม่ากวาดต้อนไปเป็นเชลย 
  • จากนั้นจึงแต่งตั้งให้ พระมหาธรรมราชา เป็นพระอุปราชครองราชแทน และพระมเหสีและพระประยูรญาติหลายพระองค์ ก็เพราะไข้ป่าและโรคผิดอากาศ 
  • จากบอละเกถึงเมืองนาย (Noitow) ใช้เวลา 10 วัน จากเมือง NOITOW (เมืองนาย) ถึงเมือง HANDITOW (เมืองหาง) ใช้เวลาเดินทางถึงเจ็ดวัน แบบค่ำไหนนอนนั่น พร้อมด้วยขบวนหาบส่งของ 
  • อันเมืองหางนี้ ปัจจุบันชาวบ้านเขาเรียก เมืองฮาง หรือเมืองงอย ท่านสวรรคต เมื่อปี พ.ศ. 2150 พระชนมายุได้ 50 พระชันษา เสวยราชสมบัติได้ 15 ปี 
  • เป็นสถานที่พระนเรศวรมหาราช เสด็จสวรรคตเพราะโรคไข้ป่าและโรคฝีดาษ อันเมืองนี้เป็นเมืองอิสระอยู่ในหุบเขาซึ่งเป็นแหล่งปลูกและผลิตฝิ่นที่มากที่สุดดีที่สุดในโลก ซึ่งโลกภายนอกไม่สามารถที่จะไปถึงได้ในปัจจุบัน 
  • ขบวนเราพักผ่อนอยู่ที่นี่ห้าวัน เพื่อทำบุญอุทิศถวายพระองค์ท่าน และก็มีพระเจดีย์เล็กๆ ที่ไทยใหญ่เขาสร้างครอบที่ฝังพระศพท่านไว้ด้วย
  • เสร็จแล้วก็ออกเดินทางต่อไป จะเข้าเขตแดนไทยต้องไปตามทางคดเคี้ยวเลี้ยวลดไปมาทางตอนใต้ (เทือกเขาถนนธงชัย อันเทือกเขานี้ ต่อจากเหนือสุดของรัฐฉาน ผ่านพม่าตอนเหนือ เขตภูฐานถึงเขาตะนาวศรี คิดดูแล้วจะเป็นฝีมือของธรรมชาติมาสร้างเขาทั้งสองลูกนี้ได้ยาวเหยียดครึ่งทวีปเอเซีย) 
  • ทั้งเรือทั้งคนขนส่งเรามากมาย สุดทางเมื่อไหร่มอบเรือให้เขา พร้อมด้วยเงินค่าแรงงาน ตามที่เขาต้องการ เรือพายทวนกระแสน้ำอันไหลเชี่ยวกราก เห็นบ้านคนต้องจอด 
  • เขาประกาศว่าเจ้าตนบุญ มาโปรดเราแล้ว เราก็แจกของจนหมด ถึงเมืองที่เจริญหน่อยก็ซื้อเพิ่มเติมอีก 
  • ตอนหลังมาเรื่องเรือจ้างต้องเลิก เราจัดซื้อของและจ้างเรือเป็นรายวัน ให้เขาเรียกค่าจ้างตามชอบใจไม่เคยต่อเขาเลย เรามีแต่ให้กับให้ จำสุภาษิตว่า ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของผู้ขอ
  • พอออกจากเมืองปันเข้าเมืองทน ต้องใช้ขบวนหาบต่อ ขนของกันขึ้นเขาลงห้วย ลูกแล้วลูกเล่า อากาศก็เย็นเพราะเป็นฤดูหนาว ขบวนหาบและแบกของต้องเดินป่าผ่านดงกลางพงลึก จิตรำลึกถึงคนึงหลัง ตอนเรานั่งภาวนาหาตัวแฝง ที่หลวงปู่โลกอุดรสอนแสดง ให้รู้แจ้งประจักษ์จิตอนิจจัง ตามโอวาทของพ่อโลกอุดรสอนไว้
  • ท่านให้รู้ตัวจริง ตัวเป็น ตัวแฝง ไว้ในใจตน จงแยะแยกตนตัวจริง กับตัวเป็นออกให้หมด
  • แล้วกำหนด ที่ผู้รู้ เป็นครูสอน
  • สอนให้รู้ อยู่คู่กับ ดับนิวรณ์
  • อย่าให้จิตโยกคลอน ผ่อนอารมณ์ ข่มจิตใจ 
  • เมื่อจิตเผลอไป ใจก็กลุ้ม รุมกิเลส
  • ชักหาเหตุ รักชัง ฟังไม่ไหว
  • ท่านสอนไว้อย่างไรก็เป็นจริงทั้งทางรูปธรรมและนามธรรม 
  • อันทางรูปธรรมนั้นคือ เราโดนใส่ความว่าเป็นพระตัวการ ก่อให้เกิดความยุ่งเหยิงในวงการสงฆ์ ของพระพม่า เพราะเราออกค่าใช้จ่าย ถวายพระสงฆ์ทั้งหมดที่ไปเดินขบวน จึงเจอเรื่องหนัก ถูกกักขังบริเวณ และโดนสอบสวนทุกวัน 
  • ส่วนด้านนามธรรมนั้นคือการค้นหาตัวแฝง รูปแฝงออกมาใช้ได้ผล ก็หลุดพ้นออกมาได้
  • และตัวแฝงนี้เอง ที่ได้ใช้ให้ไปค้นคว้าเรื่องโลกวิญญาณ จนได้ไปพบพระวิญญาณของท่านผู้มีบุญคุณอันยิ่งใหญ่ แก่บ้านเมืองสมัยนั้น คือพระวิญญาณของนางสุพรรณกัลยา และสถานที่เขาฝังพระเจ้าเหนือหัวของกรุงศรีอยุธยาคือพระมหินทราธิราช พร้อมด้วยพระประยูรญาติของพระองค์ 
  • เราได้ค้นเอาสมบัติและสิ่งหวงแหนของท่านมาสักการะไว้แล้ว ตลอดทั้งได้แก้ไขทางไสยศาสตร์เวทมนต์กลคาถาให้ท่าน ได้หลุดพ้นจากการผูกมัดด้วยภัยเวร
  • แล้วเชิญวิญญาณท่านเดินทางกลับ อันกิจธุระเรื่องแก้เวรแก้กรรมของเรา และท่านผู้มีพระคุณต่อคนไทยทั้งประเทศ ก็ได้มาหมดแล้ว จิตใจก็ผ่องแผ้ว ด้วยสมความปรารถนา
  • จึงมาคิดในใจว่า ก็พระมหาเถระทั้งประเทศที่มีชื่อเสียงโด่งดังหลายๆ ท่าน ทำไมดวงจิตของพระนางท่าน ตลอดทั้งทวยเทพเทวาฟ้าดิน จึงไม่ไปสัมผัสให้ต้องเดินทางเข้าไปช่วยบ้าง 
  • ส่วนข้าพเจ้าเองก็เป็นพระภิกษุสับปะลังเค ในทัศนะของพระสงฆ์องค์อื่นๆ ท่านทำไมจึงผูกพันหรือนิมนต์ให้ไปช่วย จะเอาผู้อื่นไม่ได้หรือ 
  • ภายหลังจึงมานึกได้ว่าอันคนที่จะไปช่วยท่านได้นั้น มันต้องเป็นคนบ้าหลายระดับ คือหนึ่งบ้าไม่กลัวความลำบากยากเข็ญ ไม่กลัวตาย 
  • เพราะเคยตายมาแล้วหลายครั้งจากอุบัติเหตุ ดังจะกล่าวไว้ข้างหน้านี้ เพราะขณะที่ตายโดยมีสตินั้น เราได้ฝึกหัดตายก่อนตายมาแล้วว่า ขณะที่จิตมันไม่สัมผัสกับตัวจริง และตัวเป็นนั้นมันมีอาการอย่างไร
  • อันภาวะของภวังคจิต กับวิถีจิต นั้นมันจะมีอาการอย่างไร แล้วจับเอาตัวเองมาสร้างเป็นตัวแฝง จึงไม่กลัวตาย บ้าไม่กลัวตาย ยิ่งตายบ่อยยิ่งดี และบ้าไม่กลัวคนทุกรูปแบบ ในทางที่ถูกต้อง 
  • อย่างที่สอง ต้องบ้าระดับเห็นเงินเห็นทอง เป็นของส่วนกลางมิใช่ของเราเอง และเราก็มั่งมีร่ำรวยเหลือใช้แล้ว จึงเห็นว่าเงินคือตัวภัยร้าย เป็นไฟเผากิเลสให้อยากได้มากๆ 
  • แต่นี้เราพร้อมและมีพร้อมที่จะให้ เพราะพื้นเพเดิมมีเหลือใช้เหลือกิน 
  • บ้าประเภทที่สาม คือบ้าแบบเดนผีและเดนคน เดนมนุษย์และทั้งผีทั้งมนุษย์เขาไม่ต้องการ คือจะตายไปเมืองผี ผีก็ไม่รับ เพราะเคยมีอุบัติเหตุทางเครื่องบินตกในต่างประเทศมาแล้ว ผู้โดยสารตายหมดเหลือแต่เราคนเดียว เพราะผีมันไม่ยอมรับ มันบอกว่ากลับไปได้ผีไม่เอา และเคยประสบอุบัติเหตุทั้งทางน้ำทางบก ไม่ตายสักที 
  • และบ้าประเภทที่ไม่แคร์กับลาภยศ สรรเสริญ ไม่เพลิดเพลินในอามิสสุข
  • เราบวชมาแสวงหาทุกข์อย่างเดียว ถือว่าทุกข์คือบทเรียนบทรู้ของชีวิต จึงยึดเอาประสบการณ์ของชีวิตมาเป็นบทเรียน 
  • และบ้าประเภทที่สี่ คือบ้าหนังเหนียว ปืนยิงไม่เข้าและไม่ตาย (ถ้าลูกปืนไม่ถูก) ห้าบ้าประเภทเป็นคนทำอะไรทำจริง แบบบ้าระห่ำ ทำไม่เสร็จไม่หยุดไม่ยอมเลิก 
  • ดูแต่สร้างพระพุทธรูปแจก แจก แจกฟรีๆ ไปเป็นแสนองค์ ยังไม่ยอมเลิก แบบบ้าไม่กลัวฉิบหาย ขอบอกว่าข้ามันครบครันในเรื่องบ้า 
  • บ้าระดับโลกมนุษย์และโลกผี ถือว่าทรัพย์สมบัติทั้งหลายมิใช่ของเรา เป็นของแผ่นดิน ของส่วนกลาง ตายไปแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง 
  • เกิดมาจากท้องแม่ก็มาแต่ตัวเปลือยเปล่าล่อนจ่อน ผ้าผ่อนสักชิ้นก็ไม่มี แถมยังหลุดจากท้องแม่ตกลงไปในน้ำ 
  • ถ้าหมาไม่ช่วยไว้ก็เรียบร้อยโรงเรียนตาย ตายไปแล้ว ร้อนใจพาไปนรกก็เท่านั้นเอง ดังนั้นเองทวยเทพเทวาเห็นพระโง่นองค์นี้แหละที่บ้าหนักกว่าผีกว่าคน 
  • จึงดลบันดาลให้ต้องไปต่อสู้ และก็คงจะเป็นบุพกรรมที่ทำไว้ในชาติก่อน จึงย้อนมาสนองผล
  • เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ ขบวนพวกเราไปพบถ้ำใหญ่แห่งหนึ่ง ในระหว่างต่อเขตแดนพม่ากับไทย 
  • เป็นถ้ำใหญ่ที่กว้างขวางน่าอยู่ และภายในถ้ำมีแต่หินสีเขียวเป็นหยกอย่างดี ที่มีค่ามากๆ (รู้สึกจะเป็นแหล่งหยกที่ดีที่สุด มากที่สุดในโลก เพราะหินทุกก้อนทั้งเขาเป็นหยกทั้งนั้น จึงพากันนั่งพักเอาแรง) 
  • ขณะนั้นเองเจ้าเก่งหมาคู่บุญของเรา ล้มลงนอนยาวหายใจระรวยๆ ลิ้นห้อย น้ำลายไหล เอาอย่างไรกันว๊า 
  • จึงเอาปรอทวัดความร้อนสอดเข้าปากก็ปกติ หัวใจเต้นปกติ ช่วยกันพยุงให้มันลุกมันก็ไม่ยอม จึงประกาศร้องขอให้พวกขบวนหาบว่า หยุดพักกลางถ้ำนี้เอง 
  • เราห่วงเพื่อนตายของเราคือเจ้าเก่ง ถึงหายาสมุนไพรแถวนั้นคือเถาหมาว้อ กำลังเสือโคร่ง กรุงเขมา เถาวัลย์เขียว มาต้มให้กินเป็นยาแก้ร้อนใน 
  • ช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติ เพราะเรื่องยาแผนโบราณ การสมุนไพร เราเรียนมาและช่วยรักษาตัวเองและผู้อื่นได้ผลมาแล้ว นี้เป็นหมา อาหารของมันก็มังสะภักษ์ไม่ต่างกับคน ผลที่มันจะหายมีแน่ พวกลูกหาบลูกจ้างทุกคนดีใจเพราะเขาจะได้พักผ่อนได้ค่าจ้างรายวัน
  • จึงจัดที่พักนอนให้เราในคูหาใหญ่นั้นเอง อยู่ใกล้ๆ กับเจ้าเก่ง ลูกหาบเขาเป็นคนดี รักเรามาก หากพวกนั้นเป็นคนไทยมันคงจะร่วมใจกันทุบหัวไปแล้ว 
  • เขาจัดแจงที่พักของเขาอีกคูหาหนึ่ง แล้วก่อไฟไว้ให้สองสามจุด เพื่อเป็นแสงสว่างดับความมืดในเวลากลางคืน ภายนอกถ้ำมีผาสูงชัน... 
    • ได้ยินเสียงวิหคนกร้องก้องในไพร เสียงเรไรไก่ขันสนั่นดง 
    • เสียงลิงค่างบ่างชะนีร้องโหวกโหวย เสียงโอ๋ยๆบนกิ่งไม้มีเหลือหลาย 
    • เสียงผัวๆตัวเมียที่โยนกาย เห็นคนอายแอบอิงกับกิ่งยาง 
  • โอ้... น่าเวทนา เจ้าชะนีเรียกหาผัว เหมือนตัวเราเรียกเจ้าเก่งที่เจ็บป่วยให้ได้หาย เก่งเพื่อนตายจงได้หายจากโรคา ไท้เทวาจงช่วยขัดกำจัดภัย 
  • ในคืนวันนั้นตอนดึก เห็นพระสงฆ์ไทยใหญ่รูปร่างสูงโปร่งน่าเคารพ ท่านเดินผ่านแสงไฟ เข้ามานั่งบนแท่นหินหยกในถ้ำ ติดกับที่ข้าพเจ้านอนอยู่ 
  • ท่าทางท่านสังวรแบบสมณะเต็มร้อย ท่านออกปากถามข่าวว่า... ขะมะนิยัง อาวุโส... เราก็ตอบภาษาพระว่า ขะมะนิยัง ภันเต... 
  • ท่านก็ยิ้มรับแล้วบอกว่าในชีวิตของคุณ คุณคงจำได้ว่า ท่านกับผมพบกันมาแล้วสามสี่ห้าครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว
  • ผมจะสนับสนุนแต่คนที่ทำความดีแล้วไม่หวังผลตอบแทน คุณจำจากบ้านเมืองมาคราวนี้ คุณได้ทำประโยชน์มาก 
  • และได้รู้ได้เห็นได้ศึกษาหาความรู้ทางตัวแฝงได้ดี ยากที่บุคคลธรรมดาสามัญจะทำได้ เพราะต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ แทบจะเอาชีวิตไม่รอดแบบเดนตาย 
  • และยังได้บริจาคทานแก่คนที่ตกยาก ใช้เงินส่วนตัวไปแล้วหลายล้านบาท แล้วยังช่วยผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ นั่นคือพระนางสุพรรณกัลยา 
  • ที่ได้มีส่วนสัมพันธ์ทางบุญคุณกับท่าน พร้อมด้วยพระธิดาทั้งสองพระองค์มาด้วย 
  • คุณรู้หรือเปล่าว่าพระนาง ท่านมีพระธิดาองค์แรกเป็นทารก เขาปล่อยให้อดตายไปก่อนแม่ แล้วเขาจับยัดใส่ไหลูกเล็กฝังไว้ ก่อนที่คุณขุดค้นเอานี่เอง และเรียกเอาวิญญาณมาด้วย ส่วนคนที่อยู่ในท้องได้แปดเดือนถูกฆ่าตายทั้งกลม ด้วยน้ำมือของเจ้ามังสะไชยสิงหะราช หรือนันทบุเรง ไปพร้อมกับแม่ที่เรียกว่าพระนางตายทั้งกลม 
  • ท่านช่วยทางไสยศาสตร์ทางวิญญาณ เอามาหมด 
  • และทั้งหมดนั้น เขาจะกลับมาเป็นบุตรบุญธรรมของท่านในอนาคต และจะเป็นผู้ชายทั้งสองคน เป็นผู้มีบุญมาก มาเกิดในสกุลทุกข์ยาก 
  • แต่เขาจะเกิดมาช่วยสังคม ท่านดูไปก็แล้วกัน คนพี่เขาจะมีชื่อว่าสุริยัน คนที่สองชื่อว่าบุญชุ่ม อีกประมาณสักสามสิบปีข้างหน้า 
  • ท่านจะเห็นหน้าเขา และเขาจะรักและเคารพท่าน เหมือนบิดาบังเกิดเกล้า ท่านดูไปก็แล้วกัน สักวันหนึ่งข้างหน้าเขาจะมาหาท่านเอง 
  • และแต่ละคนเขาก็จะเวียนว่ายตายเกิดเหมือนท่านเอง เพราะรีบมาสร้างบารมีไม่ยินดีในทิพยสมบัติ อย่างผู้อื่นเขานิยมกัน 
  • ก่อนมาเกิดในชาติปัจจุบัน เจ้าสุริยัน เป็นผู้กอบกู้เอาเมืองถลางเขตปักษ์ใต้ เขาจึงเกิดเมืองใต้ ส่วนเจ้าบุญช่วย (บุญชุ่ม) เขาเกิดมาเป็นเจ้าตนบุญ ผู้โด่งดังในภาคเหนือ คือพระอุปัชฌายะของคุณเอง 
  • ต่างคนต่างเป็นครูเป็นศิษย์กันมาตลอด แล้วให้คุณภาวนาว่า... ปุพเพวะสันนิวาเสนะ ปัจจุปันนะหิเตนะวา เอวันตัง ฉายะเตเปมัง อุปะรังวายะโถทะเก... 
  • ถ้าผู้มีจิตสร้างจิตให้เป็นตัวแฝงได้ ภาวนาคาถานี้ จะรู้ชัดเจนว่าชาติปางก่อนย้อนไปไม่เกิน 5 ชาติ จะรู้ได้ด้วยตนเอง จำไว้นี้เป็นคำเตือนของหลวงพ่อโลกอุดร
  • จากนั้นท่านก็แนะนำเรื่อง การรักษาตัวจริง คือร่างกายด้วยการกินการนอน การทำงานให้สมดุลย์อย่าใช้มันมาก 
  • ส่วนตัวเป็น ให้ลดละทิ้งให้เด็ดขาด อย่ายึดมั่นถือมั่นในตัวเป็น คือตัวเป็นโน่นเป็นนี่ เป็นอะไรต่อมิอะไร ตามวิสัยที่โลกเขาสมมุติกัน อันตัวเป็นนี่เอง คือสมุทัย จะเป็นปัจจัยให้เกิดทุกข์ เพราะไปยึดติดมัน อันคนส่วนมากชอบยึดติดอยู่กับตัวเป็นนี้เอง มันจึงทุกข์ 
  • ส่วนตัวแฝง ตัวทิพย์ ที่เรารู้เราเห็นมานั้นแหละให้สร้างมันขึ้นมา ติดตาตรึงใจไว้ตลอดเวลาได้ยิ่งดี อันตัวแฝงนี้ ยิ่งใช้งานยิ่งมีพลังที่จะช่วยตัวเองและคนอื่นได้ 
  • ส่วนตัวเป็น ยิ่งนำออกมาใช้ยิ่งยุ่งทั้งแก่ตัวเองและสังคม 
  • ส่วนตัวจริงนั้น ยิ่งใช้งานยิ่งเสื่อมโทรม แก่ง่ายตายเร็ว อันตัวที่จะช่วยให้ตัวจริงได้มีอายุยืนยาวไม่แก่เร็วตายเร็วได้ ก็อาศัยตัวที่สามคือตัวแฝงนี้เอง 
  • จงจำเอาไว้ และผมขออวยพรให้ท่านได้ทำประโยชน์ให้สังคมไปนานๆ และขอเตือนกรรมที่ท่านทำเอาไว้ คือไปยิงปืนขู่ข้าศึก ให้ผิดใจกับพวกนางสนมนางในนั้น 
  • เขาไม่พอใจ จึงร้องขอเจ้าเหนือหัวให้ประหารชีวิต แต่ท่านคิดทัน หลบหนีออกเวลากลางคืน ขนสมบัติไปด้วย ไปฝังเอาไว้ ที่ไม่ไกลจากวัดที่เมืองอยุธยา ที่พระพนรัตน์ไปเกิด
  • อันสมเด็จพระพนรัตน์นั้นคือท่านขรัวโต (สมเด็จโต พรหมรังสี) อันวีรกษัตริย์ตั้งแต่อดีตนั้น ท่านได้สืบสันติวงศ์ทางบุญกุศลกันมาตลอดคือ พ่อขุนราม ก็มาอุบัติในวงศ์จักรี องค์ที่ 5 คือ พระปิยะมหาราช 
  • คุณอย่าลืมว่า วงศ์กษัตริย์ในเมืองสยามไทยนั้น ท่านมีการสืบสันตะติกันมาหลายชาติหลายภพ ซึ่งแต่ละท่านทำคุณงามความดี ให้แก่บ้านเมืองที่คนส่วนมากยอมรับนับถือเอามากๆ 
  • ท่านเหล่านั้นก็กลับมาเป็นกำลังของชาติ ในยุคปัจจุบันคือ ระดับเจ้า ระดับขุนพล ขุนทัพ แม่ทัพ ในยุคนี้สมัยนี้ทั้งนั้น 
  • ส่วนลูกชายบุญธรรมของท่านทั้งสองคนนั้น เขามีตัวแฝงมาแต่กำเนิด เขาเลี้ยงตัวได้ และท่านเองก็รักเขาจริงๆ เหมือนลูกในไส้ 
  • และเขาทั้งสองจะเกิดมาสนองกรรมไว้ชาตินี้เท่านั้น แล้วก็จะทำจิตให้ถึงพระอนาคามี ไม่มาเกิดอีกแล้ว 
  • ผมขอฝากไว้ด้วย เพราะเขาจะช่วยสังคมและคนทั่วไปตลอดชีวิตของเขา และเขาก็ปราศจากคู่ครอง ท่านดูเองก็แล้วกัน 
  • ผมไปละ ลาก่อน พบกันใหม่ที่เทือกเขาหิมาลัยในอีกไม่นานนัก เพราะท่านจะต้องตามถนอมรัก ลูกคนที่สอง ซึ่งอยู่ที่หิมาลัยประเทศ
  • ในเวลาที่ข้าพเจ้านั่งฟัง มันเป็นอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ครึ่งฟื้นครึ่งฝัน และก็ฝันดีด้วยช่วยให้เรามีกำลังใจ 
  • คิดอีกอย่างว่าก็ทำไมหนอ พระสุพรรณกัลยา ท่านไม่บอกเราในเรื่องนี้ นี่เราเอาพระวิญญาณ ของทั้งสามแม่ลูกมาด้วย 
  • ดีเหมือนกัน เราจะได้สัมผัสกับแม่ม่ายลูกสอง ตอนนั้นรุ่งอรุณเวลาฟ้าสางพอดี เจ้าเก่งหมาคู่บารมี มันลุกออกวิ่งอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับมัน 
  • เป็นเพราะเราเอายาสมุนไพรกรอกปาก และยาปะคบให้มันจึงหายหรืออะไรชอบกล มันร่าเริงเข้ามาหา ส่อสายตาฝากความรักประจักษ์จิต ดีกว่ามิตรที่เป็นคนล้นเหลือหลาย 
  • จึงมานึกว่า ถ้าไอ้เจัาเก่งมันไม่ทำอาการป่วย เราพร้อมคณะก็ผ่านด่านดงพงป่าเหล่านี้ไปแล้ว และก็จะไม่เจอท่านผู้มีปัญญา 
  • ผู้มีบุญมาโปรดเราอย่างนี้เลย นี่เจ้าเก่งมันเป็นหมาแสนรู้ รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเพื่อนของมันคือข้าพเจ้า แต่ตัวข้าพเจ้าสิโง่และโง่ยิ่งกว่าหมาเสียอีก 
  • เพราะไม่รู้ล่วงหน้า อะไรจะเกิดขึ้น ตกลงเรายอมแพ้หมา ยอมให้หมาที่ฉลาดกว่าเรา เข้าตำราว่า โง่ไม่เป็นเป็นใหญ่ยาก โง่ไม่เป็นฉลาดไม่ได้เลย
  • การเดินทางต่อ เราข้ามภูเขาหลวงที่ขวางกั้นพม่าตอนบนกับไทยตอนเหนือ ได้ใช้เวลาอีกสิบห้าวัน ออกช่องทางบ่อเบี้ย 
  • เพราะต้องเดินอ้อมขุนเขาที่สูงชัน จากเหนือล่องใต้ จากเมืองปันเมืองทนล่องใต้ออกเขตอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ พวกขบวนหาบส่งเขาก็ลากลับบ้านเมืองของเขา 
  • เราจึงโทรเลขถึงเจ้าทิพย์วรรณและนายพันเอกประภาส จารุเสถียร ผู้ที่เคยเคารพนับถือกันมาตลอด 
  • ท่านจึงส่งรถสองคันขึ้นไปรับกลับเชียงใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2493 ส่วนสิ่งของต่างๆ จำนวน 3 หาบ เราฝากไว้กับบ้านเจ้าทิพย์วรรณ 
  • เพราะไว้ใจท่านมากและท่านก็เป็นเจ้า ระดับเจ้าฟ้าหญิงแห่งนครเชียงตุง รัฐฉาน สหภาพพม่า ซึ่งก็เป็นสายญาติผู้ใหญ่ของโยมมารดาของเราเอง 
  • ส่วนข้าพเจ้ากับเจ้าเก่งก็เข้าป่าแสวงหาวิเวก พร้อมด้วยพระรูปของพระสุพรรณกัลยา และท่านสั่งว่า รูปพระน้องยาเธอของท่าน คือพระนเรศวรมหาราช ก็ให้หล่อไว้พร้อมกัน
  • ท่านสั่งว่าอีกในไม่ช้า พม่าเขาจะมีพระรูปของเจ้าบุเรงนอง ไว้ใกล้ชิดติดแดนไทยในภาคเหนือของประเทศ 
  • เพราะเขาถือว่า ผู้เอาชัยชนะไทยได้ มีเจ้าบุเรงนองพระองค์เดียวเท่านั้น เขาจึงจะสร้างไว้เป็นอนุสรณ์ใกล้เขตแดนไทย 
  • และแล้วขอให้ท่านอัญเชิญพระรูปของพระนเรศวร ไปประทับไว้ฝั่งไทยให้หันหน้าใส่กัน อย่าให้ห่างกันเกินกว่า 1,000 วา 
  • ให้สองเสด็จได้ทัศนาเจริญสัมพันธมิตรไมตรีต่อกัน และไทยกับพม่าก็จะเป็นเสมือนแผ่นดินเดียวกัน ทางจิตใจ และจะได้เจริญสิริวิไลทั้งสองประเทศ
  • เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นแล้วคือ จู่ๆ เมื่อปี 2540 นี้เองพม่าก็สร้างอนุสาวรีย์ของเจ้าบุเรงนองขึ้นไว้ที่ท่าขี้เหล็ก ระยะติดชิดกับฝั่งแม่สาย หันหน้ามาทางฝั่งไทย 
  • ใครๆไประยะนี้ก็จะเห็นเจ้าบุเรงนอง ข้าพเจ้าจึงจะอัญเชิญพระบรมรูป ของพระนเรศวรไปประทับไว้ที่ฝั่งไทย ให้อยู่ตรงไหนก็ได้ 
  • แต่ต้องให้ไกลกันเกินกว่าสองพันเมตร ที่อำเภอแม่สาย หันพระพักต์ไปทางพม่า ให้ทั้งสองพระองค์ได้หันหน้าใส่กันอีก 
  • เรื่องก็นับว่าเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว ที่พระนางท่านบอกไว้เมื่อ 50 ปีก่อนโน้น จึงนับว่าความฝันเป็นความจริงขึ้นมาจนได้ 

  • เพราะพระรูปข้าพเจ้าได้หล่อไว้ก่อนแล้ว เป็นพระรูปขนาดเท่าตัวพระองค์จริง เพราะข้าพเจ้าเชื่อความฝันของตัวเอง จึงลงมือปั้นหล่อไว้ก่อน 
  • ขณะนี้พระรูปก็อยู่ที่ข้างกระท่อมของข้าพเจ้าเอง พร้อมที่จะอัญเชิญไปได้ทุกเมื่อ 
  • ขอบอกว่าอันพระวิญญาณอันบริสุทธิ์ ของพระสุพรรณกัลยาพร้อมด้วยทาริกาทั้งสองนั้นตกเป็นของคนไทย แล้วตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2491 
  • และได้เดินทางถึงแผ่นดินไทยเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2493 และได้ทำการหล่อรูปของพระนางท่านเมื่อ พ.ศ. 2535 ปิดมาเป็นความลับแต่แรกเริ่ม ครบห้าสิบปี
  • และได้เจอกับกุลสตรี บุตรสาวของท่านเมื่อปี 2520 คนแรกที่งานวางศิลาฤกษ์อาคารร่วมกับสมเด็จพระญาณสังวร 
  • ตอนนั้นพระองค์ท่าน ยังไม่ได้สถาปนา เป็นสมเด็จพระสังฆราช เจ้าหมอสุริยัน เขาเป็นเจ้าพิธีพราหมณ์ มีคนนับถือเขามาก 
  • เขาเข้ามาขอมอบตัวเป็นลูกบุญธรรมตลอดชีวิต และเมื่อเขาบวชเป็นบรรพชิตคือเป็นพระภิกษุ จากสมเด็จพระญาณสังวร 
  • และครั้งที่สองบวชที่วัดสระเกตุ เขาบวชวันนั้นเสร็จเขาก็ไปอยู่กับข้าพเจ้าตลอด ลูกคนนั้นคือคุณสุริยัน อริสังวโร หมอหยองที่คุณรู้จักทุกวันนี้ 
  • ส่วนคนที่สองคือ เจ้าบุญชุ่ม เขารู้จักกับข้าพเจ้าตั้งแต่เป็นเด็กเป็นเณร ตอนที่เขาเป็นสามเณร นั่นซิเอาเรื่องมาให้เราแทบจะบ้าตาย เรื่องเขาเป็นสามเณรรูปหล่อ ข้อปฏิบัติเคร่งครัด คนก็นับถือมาก อยากจะไปอยู่หิมาลัยประเทศ คือเขตตอนเหนือประเทศเนปาล ข้าพเจ้าเองกับคุณโยมประดิษฐ์ วิชาพานิช คุณเม่ง นายช่างภาพ คุณบุญไชย ใครอีกบ้างก็จำไม่ได้ นำขึ้นเครื่องบินเหินฟ้า พำนักปฏิบัติภาวนา ไปหิมาลัย เอาไปฝากไว้กับพระอมริตตะเถระ เจ้าคณะใหญ่ประเทศเนปาล ท่านสมภาร และเป็นประมุขของสงฆ์ ก็ยอมรับลูกบุญธรรมของเรา 
  • เพราะก่อนเราเคยพบกันที่พม่า พอออกพรรษา ข้าพเจ้ากับคุณประดิษฐ์ วิชาพาณิชย์ คุณวิภาวรรณ หมอพิลาทั้งครอบครัว พากันไปเยี่ยมไปทอดผ้าป่า ถวายค่าอาหาร แล้วเดินทางต่อไปนมัสการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองนั้นประเทศนั้น
  • ตอนขึ้นไปทางเหนือติดแดนจีนคือเมืองยาลัมและอเวเลสต์เชิงเขาหิมาลัยนั้น ตรงนั้นเขาเล่าว่าเป็นเวียงวังบ้านเกิดให้กำเนิดของหลวงปู่พระครูโลกอุดร ชื่อจริงของท่านคือ พระอุตระ น้องชายชื่อพระโสณะ ที่มีกล่าวในอนุพุทธประวัติ ที่ท่านถูกส่งเป็นสมณะฑูตไทย เดินทางมาให้กำเนิดพุทธศาสนาเผยแพร่ในแดนสุวรรณภูมิ คือแดนทอง ได้แก่ พม่า ไทย ลาว และเขมร โดยเฉพาะคนไทยหลงใหลกันมาก จึงมีหลวงพ่อโลกอุดรปลอมที่คนผู้ละโมบโลภหลงเอาชื่อท่านมาขายกินกัน 
  • ในสังคมไทยหารู้ไม่ว่า หลวงปู่โลกอุดรเกิดที่ไหน จะสัมผัสได้อย่างไร เห็นก็แต่หลอกลวงกันทั่วไป ในคราวนั้นเราไปกันหลายคนเพื่อนมัสการโบราณสถานที่นั่นและทั่วหิมาลัยประเทศ 
  • จึงขอบอกตรงๆว่า หลวงพ่อโลกอุดร คือพระอภิสมานกาย มีกายทิพย์ จะเกิดจะดับเมื่อไรก็ได้ ท่านจะเสด็จโปรดทุกแห่ง 
  • แต่แห่งใดมีจิตใจเป็นพระนักรบคือรบกวนชาวบ้านเพื่อแสวงหาลาภผล ไม่ว่าคน ไม่ว่าพระ ท่านไม่เอาด้วย และไม่ปรากฏให้เห็นเลย ท่านจะช่วยแต่ผู้ที่เสียสละ มีแต่ให้กับให้ 
  • และช่วยคนโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ และต้องได้ตัวในคือตัวแฝงด้วย และตัวแฝงเอาออกมาใช้ได้ด้วย อันเจ้ากูที่หนาด้วยกิเลสหาทางร่ำรวยฉวยโอกาสนั้นเมินเสียเถิดอย่าหลอกเขาต่อไปเลย 
  • บ้านช่องของท่านอยู่ที่เมืองอุตระยาลัมอเวอเลสต์ เขตติดต่อกับแดนจีน เชิงเขาหิมาลัยโน้น
  • ตอนไปคราวนั้น เราได้พำนักแสวงบุญไปชมไปนมัสการ สถานที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งเกือบทั่วหิมาลัยประเทศ 
  • การไปเที่ยวที่นั่นวันนั้นเมื่อพากันชมสถานที่ที่พระผู้มีบุญมาเกิด พวกเราก็รู้สึกดีใจ ทันใดนั้นเอง สามเณรเจ้าบุญชุ่มก็ลองภูมิข้าพเจ้าว่า 
  • พ่อครับ หนังสือในแผ่นหินป้ายใหญ่ๆนี้ ลองอ่านซิหลวงพ่อ เราก็อ่านดังๆให้ทุกคนได้ยิน หนังสือนั้นเขียนเป็นอักษรฮินดีและกูต๊าฟ มีประมาณ 30 แถว 
  • แล้วกำลังจะแปลให้ลูกศิษย์ฟัง ประเดี๋ยวนั่นเอง แทนที่จะเป็นน้ำไหลออกมาอย่างเจ้าบุญชุ่มบอก แต่เป็นพระสงฆ์รูปร่างใหญ่ เดินออกมาจากป้ายหินอันนั้น 
  • ซึ่งก็มีรั้วทองแดงสูง 2 เมตร กั้นไว้ ท่านเดินออกมาได้เสมือนไม่มีรั้วกั้นเลย ท่านเดินยิ้มออกมา จับมือข้าพเจ้าแล้วกล่าวว่า... จะมะนิยังอาวุโส... 
  • เราก็ตอบท่านว่า ขะมะนิยังภันเต (เป็นภาษาพระสงฆ์ท่านถามข่าวคราวกันตามธรรมเนียม)... 
  • ถ้าแปลเป็นไทยให้ตรงๆว่า ท่านยังทนไหวหรือ (หรือท่านยังไม่ตายหรือ) แล้วก็ขอถ่ายรูปรวมกัน ข้าพเจ้ายืนกลาง สามเณรบุญชุ่มยืนด้านซ้าย พระอาคันตุกะยืนขวา 
  • วันนั้นมือกล้องถ่ายหลายท่านร่วมกัน ถ่ายเสร็จแล้วก็จากกัน พวกโยมๆ ก็อยากรู้ว่า ท่านเป็นใคร ทำไมจึงแสดงความสนิทสนมกับอีตาโง่นมากนัก ขนาดจับมือถือแขนหยอกล้อกันถึงกับเอามือลูบหัวโล้นอีตาโง่นได้
  • แต่ ท่านหัวล้านใสในสายตาท่านคมสงบเสงี่ยม พระหัวล้านกับพระหัวโล้น เจอกันมันแท้ๆ แต่รูปถ่ายที่ออกมารูปท่านกลายเป็นพระแขก มีผ้าพันหัวเอาไว้มิใช่หัวล้านสักหน่อย 
  • พวกโยมๆ จึงฮือฮาถามว่าทำไมถึงเป็นไปอย่างงี้ เราก็ตอบเขาว่าก็ฝากพนักที่เป็นก้อนหินป้ายนั้นแหละ เป็นที่อยู่ของหลวงปู่ โลกอุดร เกิด
  • ถิ่นกำเนิดของท่านอยู่ ณ ที่นี้ องค์ที่ท่านจำแลงรูปออกมาจากก้อนหินนี้ คือหลวงพ่อโลกอุดร 
  • ท่านเป็นพระอริยเจ้าระดับอภิสมารกายคือกายทิพย์ จะปลอมแปลงตัวให้เป็นอย่างไรก็ได้ นี่รู้ไหมว่าพวกเราเข้ามาที่นี่มิใช่ที่ราบเรียบ 
  • แต่เราเดินมาอย่างสบาย ขึ้นเขาหิมาลัยมาได้อย่างไม่รู้ว่ามันสูงชัน ดูโน้นซิโยม หิมะที่ปกคลุมเขาอเวอเลสต์ ขาวโพลนไปหมด 
  • แต่ขากลับเราก็จะเดินสบายเพราะต้องเดินลงได้อานิสงส์มาก ทุกคนก้าวหน้าร่ำรวยสบายแล้ว รูปนั้นถ่ายด้วยกล้องโพโลรอย รูปจะออกมาให้เห็นทันที 
  • แต่ที่ถ่ายด้วยกล้องอย่างดีนั้น วันหลังเอาฟิลม์จากกล้องอย่างดี มาล้างดูจะเป็นอย่างไร และเมื่อล้างดูแล้วก็เป็นเหมือนกันหมด 
  • ดังที่เห็นในภาพนี้เอง ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็เป็นเรื่องของท่าน ขอให้คิดเอง แต่ผู้เขียนเชื่อเต็มร้อย เพราะเราถ่ายในสถานที่เกิดของท่าน





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น